วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทที่ 2 เอกสารและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง


บทที่2
เอกสารและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง


                   การสำรวจความต้องการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ผู้ศึกษาได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้


                                      1. แผนการเรียน

                                      2. สถาบันการศึกษา

                                     
แผนการเรียน

                         สายสามัญ  มีแผนการเรียนดังต่อไปนี้
                  1.แผนการเรียน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

        มุ่งเน้นในกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษา นักเรียนที่เลือกเรียนแผนการเรียนนี้ควรมีความสามารถพื้นฐานในด้านการคิดคำนวณ มีระเบียบวิธีในการคิดคำนวณ สามารถอธิบายให้เหตุผล วิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ เข้าใจภาษา ตีความ สื่อความหมายได้ดีตลอดจนมีความสามารถในการจินตนาการการมองเห็นทิศทางการเคลื่อนที่ของสิ่งที่เป็นนามธรรม
                 2.แผนการเรียน คณิตศาสตร์ – อังกฤษ

       เน้นในกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์และภาษา ดังนั้นนักเรียน ที่จะเลือกแผนการเรียนนี้ ควรมีความสามารถพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ ด้านภาษา การคิดวิเคราะห์ด้านจินตนาการพื้นที่ ระยะทาง ขนาด ทรวดทรง และด้านการจดจำรายละเอียดเป็นหลัก
                 3.แผนการเรียนศิลป์-ภาษา

        มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนในกลุ่มวิชาสังคมศึกษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศเป็นภาษาที่สอง ดังนั้น ผู้เรียนที่จะเลือกเรียนแผนการเรียนนี้ควรความสามารถพื้นฐานทางด้านการใช้และความเข้าใจภาษา การจดจำรายละเอียดต่าง ๆ และมีเหตุผลในการคิดวิเคราะห์
                 4.แผนการเรียนไทย-สังคม

       มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนในกลุ่มวิชาสังคมศึกษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนั้น ผู้เรียนที่เรียนแผนการเรียนนี้จึงจำเป็นต้องมีความสามารถพื้นฐานในด้านการใช้และความเข้าใจทางภาษา การจดจำสิ่งต่างๆและมีเหตุผลในการคิดวิเคราะห์


 
สายอาชีพ มีแผนการการเรียนดังนี้
1. สาขาบัญชี
การบัญชี หมายถึง กระบวนการติดตามตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของบริษัท ซึ่งมีความสำคัญต่อบริษัทในการเก็บข้อมูลรายรับและรายจ่าย เพื่อนำไปสู่การประเมินผลกำไรและความสำเร็จขององค์กร
ทุกวันนี้บริษัทส่วนใหญ่มีแผนกบัญชีของตัวเอง ซึ่งมีแนวโน้มจะจ้างนักศึกษาจบใหม่เพิ่มมากขึ้น ขอบเขตงานของแผนกบัญชีไม่ใช่แค่การบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัท แต่ยังครอบคลุมไปถึงการดูแลเรื่องธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เช่น การชำระภาษี และวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจในอนาคต
 ผู้ที่ต้องการศึกษาด้านบัญชีควรสนใจเรื่องกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ เพราะส่วนหนึ่งของหลักสูตรจะสอนเรื่องข้อกำหนดของกฎหมายเกี่ยวกับภาษี นโยบายทางการเงิน รวมถึงความรู้เรื่องธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบต่างๆ การเรียนบัญชีมีเนื้อหาที่ต้องศึกษาเยอะพอสมควร ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องหัวไวเรียนรู้เร็ว พร้อมจะรับมือกับงานหนัก และมีเวลาสำหรับการศึกษาตำราเพิ่มเติมนอกชั่วโมงเรียน
2. สาขาการตลาด
การตลาด คือ การทำโปรโมชั่นให้แก่สินค้าและบริการ เพื่อหวังผลในการดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้หันมาสนใจสินค้า และนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าและบริการนั้นๆ ทุกวันนี้พัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค, ทวิตเตอร์, อินสตราแกรม หรือยูทูป ถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาดที่ได้รับความนิยม และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โลกของการตลาดในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ พฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาเริ่มเชื่อใจนักการตลาดน้อยลง จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของนักการตลาดยุคใหม่ ที่จะต้องแสวงหาไอเดียใหม่ๆ ในการทำแคมเปญเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนด้านการตลาด ควรเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับทักษะการคิดอย่างมีตรรกะ ต้องสามารถทำความเข้าใจเรื่องสถิติทางการตลาดได้โดยไม่งงกับตัวเลข และเชี่ยวชาญในการคิดวิเคราะห์ งานของคุณคือการสร้างแคมเปญการตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่ง และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้อย่างตรงใจพวกเขา
ผู้เรียนจะต้องกระตือรือร้นในการติดตามข้อมูลทางการตลาดอยู่เสมอ และต้องแบ่งเวลานอกห้องเรียนเพื่อทำวิจัยในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด คนที่สนใจเรียนคอร์สนี้ ควรเป็นคนที่จัดการกับเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมทำงานหนักตามที่ได้รับมอบหมาย
3. การท่องเที่ยว-การโรงแรม
การเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยว จะต้องเรียนทั้งภาคทฤษฎีและ ปฏิบัติ ในทุกๆส่วนทุกๆแผนก ภายในโรงแรม ได้แก่ แผนกบริการส่วนหน้า (Front Office), แผนกครัว (Kitchen Operations), แผนกอาหาร และ เครื่องดื่ม (Food & Beverage) ,  แผนกจัดเลี้ยง (The Catering Department), แผนกแม่บ้าน  (Housekeeping) จนไปถึงแผนกช่างซ่อมบำรุง โดยคณาจารย์จะมุ่งเน้นการสอนให้นักเรียนมีความรู้ลึกซึ้งถึงการทำงานในแผนการเรียนนั้นๆ และ ระหว่างแผนก ว่ามีความสัมพันธ์ กันอย่างไร เมื่อเรียนจบในภาคทฤษฎีแล้ว ก็จะมีการเรียนและทดสอบผู้เรียนในภาคปฏิบัติด้วย
4. สาขาช่างกล (ช่างไฟฟ้า,ช่างยนต์ ฯลฯ)
ช่างยนต์ คือ สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ต่าง ๆ ที่นิยมใช้ในการเกษตร และอื่น ๆ สาขาช่างยนต์มีการจัดการเรียนการสอนเน้นการฝึกทักษะ ประสบการณ์ และการทดลองสิ่งใหม่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาขาช่างยนต์ เช่น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ต่าง ๆ การใช้อุปกรณ์ในงานช่าง วัสดุเชื้อเพลิง การถอดประกอบเครื่องยนต์ การคำนวณต่าง ๆ ที่จำเป็นต่องานช่าง วิชากลศาสตร์ วิชาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นต้น การเรียนสาขาช่างยนต์เป็นสาขาวิชาที่เน้นการฝึกปฏิบัติกับทฤษฎีควบคู่กัน และมีการปรับเปลี่ยนเทคนิคการสอนและฝึกปฏิบัติตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์
          สาขาช่างไฟฟ้า คือ สาขาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า เช่น การเดินสายไฟฟ้าภายในบ้าน ภายในอากาศ การติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ การตรวจเช็คระบบไฟฟ้า การวงระบบวงจรไฟฟ้า แก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับไฟฟ้า เป็นต้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาขาช่างไฟฟ้า ให้ความสำคัญกับการสร้างความรู้พื้นฐานด้านระบบไฟฟ้า การติดตั้ง การเดินสายไฟฟ้า การต่อวงจรไฟฟ้าในลักษณะต่าง ๆ การตรวจเช็คระบบไฟฟ้า การตรวจซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น  สาขาวิชาช่างไฟฟ้า ให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กัน
        สาขาช่างกลโรงงาน คือ สาขาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกลภายในโรงงาน หรือเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่น เครื่องกลึง เครื่องไส เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ต่าง ๆ เป็นต้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาขาช่างกล ให้ความสำคัญการฝึกปฏิบัติควบคู่กับทฤษฎี โดยเน้นการให้ความรู้และทักษะต่าง ๆ เช่น ความรู้พื้นฐานเรื่องโรงสร้างเครื่องยนต์กลไก ความรู้เรื่องระบบการทำงาน และการดูแลรักษา การซ่อมบำรุงต่าง ๆ เป็นต้น

                                                      ที่มา : https://www.google.co.th/search?





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น