วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ




 
 

บทที่ 5
สรุป  อภิปรายผล  และข้อเสนอแนะ
 
                 การศึกษาความต้องการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียน                  อ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์  ผู้ศึกษาได้สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะตามลำดับดังนี้
 
สรุปผลการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสำรวจความต้องการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมุ่งเน้นสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกศึกษาต่อระหว่างสายสามัญ แผนการเรียน วิทย์ – คณิต , อังกฤษ – จีน , ไทย-สังคม และอื่นๆ และสายอาชีพ สาขา บัญชี  , การตลาด , การท่องเที่ยว-การโรงแรม และช่างกล(ช่างไฟฟ้า,ช่างยนต์ ฯลฯ) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  จำนวน 100 คน  แยกออกเป็น ผู้หญิง จำนวน 50 คน  ชาย จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เป็นแบบสำรวจ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ เพื่อสำรวจความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป     
 
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า      
            นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์นิยมเลือกศึกษาต่อ
1) การศึกษาต่อสายสามัญ แผนการเรียน วิทย์ คณิต คิดเป็นร้อยละ 38.89 อังกฤษ จีน คิดเป็นร้อยละ7.78 ไทย สังคมคิดเป็นร้อยละ 8.89 และ อื่นๆคิดเป็นร้อยละ6.67    2) การศึกษาต่อสายอาชีพ สาขา บัญชีคิดเป็นร้อยละ5.56 การตลาดคิดเป็นร้อยละ1.11 การท่องเที่ยว การโรงแรมคิดเป็นร้อยละ7.78, ช่างกล (ช่างไฟฟ้า, ช่างยนต์, ฯลฯ) คิดเป็นร้อยละ21.11และอื่นๆคิดเป็นร้อยละ2.2

อภิปรายผลการวิจัย

                   จากการสำรวจความต้องการศึกษาต่อของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ ผู้ศึกษาจึงอภิปรายผลการศึกษา ดังนี้

            ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์เลือกศึกษาต่อสายสามัญ ซึ่งมีค่าร้อยละ สูงถึง 56.00 %  นั่นอาจเป็นเพราะว่า เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วนั้นจะมีทางเลือกในการศึกษาต่อคณะต่างๆ ของชั้นอุดมศึกษามาก และในบางคณะนั้นในชั้นอุดมศึกษาจะรับในสายสามัญมากกว่า ซึ่งในการเลือกศึกษาต่อสายสามัญของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นั้นอาจจะมีปัจจัยมาจากค่านิยมของผู้ปกครอง ที่จะให้ลูกศึกษาในสายสามัญอีกด้วย และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เลือกศึกษาต่อสายอาชีพนั้น ยังมีค่าร้อยละ 34.00 % ถึงแม้ว่าจะมีการเลือกศึกษาต่อในสายสามัญมากกว่าแต่ก็ยังมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เลือกศึกษาต่อสายอาชีพด้วยเช่น  นั่นอาจเป็นเพราะว่า ผู้ปกครองสนับสนุนหรือเป็นความชอบส่วนตัวของนักเรียนเอง และการขาดแคลนทุนทรัพย์ และในปัจจุบันนั้นทางรัฐบาลก็มีการสนับสนุนในการศึกษาต่อสายอาชีพมากขึ้น แต่อาจจะเป็นเพราะเป็นค่านิยมที่ผู้ปกครองยังยึดติดให้บุตรของตนเรียนในสายสามัญมากกว่า จึงมีการสนับสนุนให้ศึกษาต่อในสายอาชีพที่ยังน้อยอยู่

 

ข้อเสนอแนะ

             การที่เราเลือกศึกษาต่อสายสามัญแผนการเรียนวิทย์ - คณิต ควรจะพิจารณาจากความสามารถของตัวเราเอง ว่ามีความถนัดมากน้อยแค่ไหน ถ้าตัวเราไม่มีความถนัด ก็จะทำให้ได้เกรดที่น้อย และอาจจะทำให้เราท้อแท้ต่อการเรียนได้ และอาจจะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น